Green Curmin สารสกัดธรรมชาติ
Green Curmin สารสกัดธรรมชาติ
เนื่องจาก...มีสารที่มีประโยชน์มากมาย
สั่งซื้อและติดตามโปรโมชั่นพิเศษ ที่นี้
😀 สนใจสั่งซื้อและสอบถามผลิตภัณฑ์ได้ที่
แผลในกระเพาะอาหาร
>> แผลในกระเพาะอาหาร
.
.
👉 เกิดจากการกินแบคทีเรียจากอาหารที่ไม่สะอาด ดื่มน้ำที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย
👉 ผลข้างเคียงของยาต้านการอักเสบในกลุ่มยาแก้ปวด เช่นแอสไพริน เซเลโคซิบ เป็นต้น
👉 รวมถึงความเครียดที่ทำให้กระเพาะอาหารสร้างกรดมากจนเกิดเป็นแผลในกระเพาะ
👉 บุหรี่และแอลกอฮอล์ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
เมื่อมีแผลในกระเพาะอาหารเราจะรู้สึกปวดท้องบริเวณยอดอกหรือใต้ลิ้นปี่ บางครั้งอาจคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
เมื่อทราบสาเหตุของโรคกันแล้ว มาใส่ใจดูแลกระเพาะ...ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อห่างไกล โรคนี้ได้เช่นกัน
.
.
#แผลในกระเพาะอาหาร
#สุขภาพดีทำอะไรก็ดี
#สุขภาพแย่ทำอะไรก็แย่
#goodbody4uส่งมอบสุขภาพดีให้คุณถึงบ้าน
#goodbody4u
เป็น "โรคกระเพาะ" ควรกินอะไรดี?
>> เป็นโรคกระเพาะ...ควรกินอะไรดี ?
.
.
1. อาหารย่อยง่ายควรกินอาหาร...ย่อยง่ายอย่างเนื้อปลา เนื้อไก่ กุ้ง ซึ่งจะย่อยได้ง่ายกว่าเนื้อวัวและเนื้อหมู อีกทั้งเวลากินเนื้อสัตว์ หรืออาหารทุกชนิดก็ควรเคี้ยวให้ละเอียด เพื่อช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารที่กินเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายหลั่งน้ำย่อยอาหารออกมาไม่มากจนก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้
2. โยเกิร์ตมีหลายท่านคงสงสัยกันอยู่ว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารกินโยเกิร์ตได้ไหม? ซึ่งก็มีงานวิจัยเผยว่า คนเป็นโรคกระเพาะสามารถกินโยเกิร์ตได้ พบว่าในโยเกิร์ตจะมีจุลินทรีย์ชนิดดีซึ่งช่วยลดแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori (H. pylori) ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดที่ก่อให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ เพราะเชื้อแบคทีเรียนี้มีฤทธิ์ทำให้ผนังกระเพาะอาหารอ่อนแอลง หรือสามารถทำให้แผลที่หายแล้วเกิดเป็นแผลซ้ำอีกได้ ดังนั้นการรับประทานโยเกิร์ตจึงช่วยลดปริมาณแบคทีเรียชนิดที่เป็นสาเหตุของแผลในกระเพาะได้ หรืออย่างน้อยๆ ก็ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดี ส่งผลให้กระเพาะอาหารและการทำงานของระบบลำไส้ดีขึ้นได้ด้วย
3. กล้วยในเนื้อและเปลือกกล้วยมีเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารที่มีผลยับยั้งการหลั่งของน้ำย่อยของกระเพาะอาหาร และกระตุ้นให้ลำไส้เล็กบีบตัวมากขึ้น จึงช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้ โดยวิธีใช้ก็แค่นำกล้วยน้ำว้าดิบที่แก่จัดทั้งลูก (ทั้งเปลือก) นำมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วหั่นขวางลูกเป็นชิ้นบาง ๆ เหมือนหั่นแตงกวาใส่ข้าวผัด เสร็จแล้วนำไปเกลี่ยใส่ถาด อย่าให้ชิ้นกล้วยซ้อนกันมากนัก ตากแดดจัด ๆ สักสามแดด แล้วจึงนำมาใส่ครกตำให้ละเอียด โดยนำมาตำในขณะเก็บจากแดดใหม่ ๆ เพราะกล้วยยังกรอบอยู่จะทำให้ตำละเอียดง่าย จากนั้นเก็บใส่ขวดที่มีฝาปิดได้สนิท ใช้ครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำค่อนแก้วกินหลังอาหารทุกมื้อ ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้น
4. ขมิ้นชันขมิ้นชันมีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด แน่นจุกเสียด ขับลม จึงนิยมนำขมิ้นมาใช้สมานแผลในกระเพาะอาหาร ทำความสะอาดลำไส้ รักษาโรคกระเพาะอาหาร ขมิ้นชันที่ไหลผ่านอวัยวะภายในต่างๆ สามารถบำรุงอวัยวะส่วนนั้นได้ด้วย คือ ผ่านลำคอ >> จะช่วยขับไล่ไรฝุ่นที่ลำคอ ผ่านปอด >> จะช่วยดูแลปอดให้หายใจได้ดีขึ้นผ่านม้าม >> จะช่วยลดไขมัน ไม่ให้น้ำเหลืองเสียผ่านกระเพาะอาหาร >> จะช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารผ่านลำไส้ >> จะช่วยสมานแผลในลำไส้ ผ่านตับ >> จะช่วยบำรุงตับ ล้างไขมันในตับ
5. ฝรั่งมีสารแทนนินอยู่มาก สารนี้มีฤทธิ์ฝาด สมานและยังยับยั้งการลุกลามของเชื้อโรค ช่วยสมานท้องและลำไส้ โดยช่วยลดอาการอักเสบของกระเพาะลำไส้ และช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน ยังช่วยอาการเกร็งตัวของลำไส้ ทำให้อาการปวดท้องบรรเทาลงได้
6. กะหล่ำปลี มีวิตามินซีสูง ยังมีสารอาหารกลูตามีน ช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารสร้างเยื่อบุผนังกระเพาะได้รวดเร็ว ทำให้แผลในกระเพาะอาหาร และลำไส้หายได้เร็ว จึงใช้เป็นอาหารในการรักษาโรคกระเพาะได้ดี โดยวิธีกินแนะนำให้กินสด หรือคั้นเป็นน้ำกะหล่ำปลีแล้วดื่ม ซึ่งจะคงคุณค่าสารอาหารได้ดีกว่านำไปปรุงสุก
.
.
#เป็นโรคกระเพาะควรกินอะไรดี
#สุขภาพดีทำอะไรก็ดี
#สุขภาพแย่ทำอะไรก็แย่
#goodbody4uส่งมอบสุขภาพดีให้คุณถึงบ้าน
#goodbody4u
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)