อาการปวดท้อง เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และ มักจะพบเห็นได้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนวัยไหน และมักมีข้อสงสัยว่า...เกิดจากอะไร? สาเหตุมาจากอะไร?
อาการปวดท้องที่เกิดขึ้นนั้น แน่นอนว่าสาเหตุหลักเกิดมาจาก การเป็นแผลในกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับหลอดอาหาร รวมไปถึงลำไส้เล็กส่วนต้นเพราะอาหารที่ทานเข้าไปนั้น จะเดินทางผ่านไปทางหลอดอาหารเข้าไปยังกระเพาะอาหารเพื่อย่อยแล้วค่อยไปยังทางลำไส้เล็กเพื่อทำการดูดซึมอาหารที่ย่อยแล้ว เพื่อนำไปใช้เลี้ยงร่างกายต่อจากนั้นกากอาหารที่ผ่านกระบวนการดูดซึม ก็จะเคลื่อนตัวไปยังลำไส้ใหญ่ นั่นก็เพื่อผ่านไปยังทวารหนักแล้วทำการขับออกจากร่างกายต่อไป
เมื่อพูดถึง "แผลในกระเพาะอาหาร" คำนี้เป็นคำที่ใช้เรียกกันทั่วๆ ไป เกี่ยวกับการเกิดแผลที่กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้กระเพาะอักเสบเรื้อรัง สร้างความทรมานได้
แผลที่เกิดขึ้นในกระเพาะอาหารนั้นเกิดขึ้นจากภาวะความสมดุลในกระเพาะอาหารของคนเรา ซึ่งกระเพาะจะมีการสร้างกรดและเอนไซม์ชนิดหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเรียกกันว่า “เปปซิน (Pepsin)” มีส่วนเพื่อช่วยสำหรับการย่อยอาหารที่เราได้กินเข้าไป กรดนี้เป็นกรดที่มีฤทธิ์รุนแรงสำหรับการกัดกร่อนย่อยสลายอินทรียสารต่างๆ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กรดนี้ไปย่อยเนื้อเยื่อในส่วนของร่างกาย รวมไปถึงผนังทางเดินอาหารส่วนบนของร่างกาย สิ่งที่เราควรทำนั่นคือการเคลือบไว้ด้วยเกราะป้องกันที่สร้างจากเมือกและโปรตีนความสมดุลระหว่างปริมาณของกรดที่อยู่ในกระเพาะกับปริมาณของเมือกบุผนังทางเดินอาหารนี้จะเป็นการช่วยรักษาทางเดินอาหารให้มีสุขภาพดี แต่เมื่อเกิดความไม่สมดุล ก็เป็นที่มาของแผลในกระเพาะอาหารได้ ซึ่งหากกรดในกระเพาะอาหารเกิดการหลั่งออกมาในปริมาณที่มากเกินไปหรือเมือกที่บุผนังทางเดินอาหารนั้น มีปริมาณไม่มากเพียงพอนั่นก็จะมีโอกาสที่กรดและเอนไซม์เปปซินนั้น จะทำการกัดกร่อนทำลายเนื้อเยื่อชั้นในของผนังทางเดินอาหาร แล้วนั่นก็จะทำให้เกิดแผลได้ซึ่งตำแหน่งที่เกิดแผลนั้น ก็มักจะอยู่ในส่วนของกระเพาะอาหาร หรือแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นด้วย
ดังนั้น สิ่งที่กล่าวมานั้น จึงเป็นตัวยืนยันได้ว่าทำไมคนเราถึงมีอาการปวดท้อง เกิดขึ้นที่ตรงไหนและส่วนใดของกระเพาะ เมื่อทราบแล้ว สิ่งที่เราควรทำเพื่อไม่ให้เกิด คือระวังเรื่องอาหารการกิน และที่สำคัญ คือการทานอาหารให้ตรงเวลา เพื่อไม่ให้เกิดอาการผิดปกติในการหลั่งน้ำย่อยมากเกินไปในกระเพาะอาหาร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Tel. 0623264622
กรดไหลย้อน...โรคยอดฮิตของหนุ่มสาววัยทำงาน โดยเฉพาะท่านที่ชอบทานจุบจิบ ทานอาหารไม่เป็นเวลาและเร่งรีบ รวมถึงผู้ชอบทานอาหารรสจัด ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ทานอาหารแล้วนอนทันที มีโอกาสเสี่ยงสูง หากมีอาการท้องอืด เรอเปรี้ยว ปวดแสบร้อนบริเวณหน้าอกและลิ้นปี่แล้วลามขึ้นมาที่หน้าอกหรือคอ
โรคกรดไหลย้อน สามารถรักษาให้หายได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทาน และการดำเนินชีวิต แต่ถ้ามีอาการมาก และเรื้อรัง ควรตรวจรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง จะได้แก้ไขได้ตรงจุด
⇒ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทของเผ็ด ของมัน ของทอด หรือรสเปรี้ยว
⇒ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ควรงด ⇒ รับประทานอาหารแค่พออิ่ม เคี้ยวให้ละเอียด หลีกเลี่ยงการทานอิ่มเกินไปทำให้กรดหลั่งมาก และอาหารที่ย่อยยาก⇒ ก่อนนอน 3-4 ชั่วโมง ไม่ควรรับประทานอาหาร⇒ควบคุมน้ำหนักตัวให้พอเหมาะ เพราะคนอ้วนจะมีความดันในช่องท้องสูงทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ง่าย⇒ไม่สวมเสื้อผ้ารัดแน่นจนเกินไป เพราะการสวมเสื้อผ้ารัดแน่นอาจเป็นการกระตุ้นให้กระเพาะหลั่งกรดออกมามาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
