1. ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก
ปัญหาเกี่ยวกับการย่อยจะบ่งบอกว่าลำไส้ไม่สามารถย่อยอาหารให้กลายเป็นพลังงานได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม แพทย์อาจบอกว่าเป็นโรคลำไส้แปรปรวน โรคลำไส้รั่ว ภาวะแบคทีเรียในลำไส้เล็กมากเกินไป หรือโรคกรดไหลย้อน และจำเป็นต้องรับประทานยาทุกวัน ทว่านี่ไม่ใช่การรักษาต้นตอของอาการ เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้ลำไส้เสียหายรุนแรงได้ ดังนั้นควรรักษาให้ถึงสาเหตุที่แท้จริง
ปัญหาเกี่ยวกับการย่อยจะบ่งบอกว่าลำไส้ไม่สามารถย่อยอาหารให้กลายเป็นพลังงานได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม แพทย์อาจบอกว่าเป็นโรคลำไส้แปรปรวน โรคลำไส้รั่ว ภาวะแบคทีเรียในลำไส้เล็กมากเกินไป หรือโรคกรดไหลย้อน และจำเป็นต้องรับประทานยาทุกวัน ทว่านี่ไม่ใช่การรักษาต้นตอของอาการ เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้ลำไส้เสียหายรุนแรงได้ ดังนั้นควรรักษาให้ถึงสาเหตุที่แท้จริง
2. ลดน้ำหนักไม่ลงโดยเฉพาะรอบเอว
คำอธิบายง่ายๆ สำหรับข้อนี้คือ ลำไส้ส่งผลต่อกระบวนการเผาผลาญ เนื่องจากไม่มีเชื้อจุลชีพในการย่อยไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลที่ตามมาคือของเสียจะถูกกักเก็บไว้เป็นเนื้อเยื่อไขมันซึ่งปกติจะสะสมอยู่ตามรอบเอว
คำอธิบายง่ายๆ สำหรับข้อนี้คือ ลำไส้ส่งผลต่อกระบวนการเผาผลาญ เนื่องจากไม่มีเชื้อจุลชีพในการย่อยไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลที่ตามมาคือของเสียจะถูกกักเก็บไว้เป็นเนื้อเยื่อไขมันซึ่งปกติจะสะสมอยู่ตามรอบเอว
3. ไม่สบายบ่อย
ระบบภูมิคุ้มกันอย่างน้อยร้อยละ 70 อยู่ในลำไส้ ซึ่งหมายความว่าหากลำไส้ขาดความสมดุล ก็มีโอกาสรับเชื้อไวรัสมากขึ้น และป่วยบ่อยเนื่องจากร่างกายไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคได้ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำว่าควรรักษาลำไส้ก่อนที่จะต้องรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการ
ระบบภูมิคุ้มกันอย่างน้อยร้อยละ 70 อยู่ในลำไส้ ซึ่งหมายความว่าหากลำไส้ขาดความสมดุล ก็มีโอกาสรับเชื้อไวรัสมากขึ้น และป่วยบ่อยเนื่องจากร่างกายไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคได้ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำว่าควรรักษาลำไส้ก่อนที่จะต้องรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการ
4. ผิวพรรณเริ่มย่ำแย่
ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย และสามารถบ่งบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน เช่น อาจสังเกตว่าเมื่อไหร่ที่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ผิวพรรณก็จะเปล่งปลั่ง แต่เมื่อใดที่ป่วยหรือรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดใบหน้าก็จะหม่นหมอง นั่นเป็นเพราะผู้ที่มีผิวพรรณดีมีแนวโน้มว่าจะมีแบคทีเรียลำไส้ดี ในทางกลับกันหากขาดความสมดุลก็จะหมายถึงการอักเสบ ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง และฮอร์โมนแปรปรวนทำให้มีโอกาสเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคภูมิแพ้ ผิวแห้ง หรือผิวมันมาก และโรคผิวหนังอักเสบ
ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย และสามารถบ่งบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน เช่น อาจสังเกตว่าเมื่อไหร่ที่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ผิวพรรณก็จะเปล่งปลั่ง แต่เมื่อใดที่ป่วยหรือรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดใบหน้าก็จะหม่นหมอง นั่นเป็นเพราะผู้ที่มีผิวพรรณดีมีแนวโน้มว่าจะมีแบคทีเรียลำไส้ดี ในทางกลับกันหากขาดความสมดุลก็จะหมายถึงการอักเสบ ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง และฮอร์โมนแปรปรวนทำให้มีโอกาสเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคภูมิแพ้ ผิวแห้ง หรือผิวมันมาก และโรคผิวหนังอักเสบ
5. เหนื่อยง่าย และอ่อนเพลีย
หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อ ประเมินว่ามีชาวอเมริกันอย่างน้อยหนึ่งล้านคนที่ป่วยเป็นโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากโรคลำไส้รั่ว ดังนั้น ต้องรักษาสุขภาพของระบบย่อยอาหารก่อน
หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อ ประเมินว่ามีชาวอเมริกันอย่างน้อยหนึ่งล้านคนที่ป่วยเป็นโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากโรคลำไส้รั่ว ดังนั้น ต้องรักษาสุขภาพของระบบย่อยอาหารก่อน
6. เครียด อารมณ์แปรปรวน หรือซึมเศร้า
รู้หรือไม่ว่าสารเซโรโทนิน หรือสารสื่อประสาทที่ช่วยกำหนดอารมณ์ที่สำคัญของคุณร้อยละ 95 นั้น อันที่จริงอยู่ในลำไส้ไม่ใช่อยู่ในสมอง ความสัมพันธ์การอยู่ร่วมกันระหว่างสุขภาพลำไส้ กับสุขภาพประสาทจึงค่อนข้างชัดเจน
รู้หรือไม่ว่าสารเซโรโทนิน หรือสารสื่อประสาทที่ช่วยกำหนดอารมณ์ที่สำคัญของคุณร้อยละ 95 นั้น อันที่จริงอยู่ในลำไส้ไม่ใช่อยู่ในสมอง ความสัมพันธ์การอยู่ร่วมกันระหว่างสุขภาพลำไส้ กับสุขภาพประสาทจึงค่อนข้างชัดเจน
7. ความจำสับสน ความคิดไม่แจ่มใส
อาจรู้สึกว่าสมองไม่แล่นเอาเสียเลย ลืมกระทั่งคำศัพท์ง่ายๆ ลืมว่าวางโทรศัพท์ไว้ที่ไหน และแม้กระทั่งการคิดเลขในใจ สาเหตุคือ เมื่อลำไส้อักเสบ สมองก็อาจอักเสบด้วยเช่นกัน และทำให้กระบวนการรับรู้ล้มเหลว
อาจรู้สึกว่าสมองไม่แล่นเอาเสียเลย ลืมกระทั่งคำศัพท์ง่ายๆ ลืมว่าวางโทรศัพท์ไว้ที่ไหน และแม้กระทั่งการคิดเลขในใจ สาเหตุคือ เมื่อลำไส้อักเสบ สมองก็อาจอักเสบด้วยเช่นกัน และทำให้กระบวนการรับรู้ล้มเหลว
8. มีปัญหาภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง
ลำไส้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เมื่อลำไส้รั่ว แอนติบอดี้จะโจมตีอนุภาคที่หลุดออกไป ซึ่งอาจกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันมากเกินไปจนนำไปสู่ภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น ไทรอยด์ หรือต่อมหมวกไตอ่อนล้า
#8สัญญาณเตือนลำไส้กำลังมีปัญหา
#ลำไส้อักเสบ
#สุขภาพดีทำอะไรก็ดี
#สุขภาพแย่ทำอะไรก็แย่
#goodbody4uส่งมอบสุขภาพดีให้คุณถึงบ้าน
#goodbody4u
ลำไส้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เมื่อลำไส้รั่ว แอนติบอดี้จะโจมตีอนุภาคที่หลุดออกไป ซึ่งอาจกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันมากเกินไปจนนำไปสู่ภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น ไทรอยด์ หรือต่อมหมวกไตอ่อนล้า
#8สัญญาณเตือนลำไส้กำลังมีปัญหา
#ลำไส้อักเสบ
#สุขภาพดีทำอะไรก็ดี
#สุขภาพแย่ทำอะไรก็แย่
#goodbody4uส่งมอบสุขภาพดีให้คุณถึงบ้าน
#goodbody4u