"ท้องผูก" พิชิตด้วยการเปลี่ยนนิสัย
"ท้องผูก" พิชิตด้วยการเปลี่ยนนิสัย
.
.
อย่างที่รู้กันว่า ปกติแล้วเราจะรู้สึกปวดท้องถ่ายในช่วงเช้าเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะช่วงเวลา 05.00-07.00 น. ที่ลำไส้ใหญ่ทำงาน ช่วงนี้จะเป็นเวลาที่เราถ่ายอุจจาระได้ง่ายที่สุด แต่ถ้าใครพลาดนาทีทองไปละก็ อุจจาระเหล่านั้นก็จะถูกดูดน้ำกลับ ทำให้มีสภาพแข็ง ขับถ่ายได้ลำบาก หากยิ่งปล่อยไว้นานๆ ไม่ยอมถ่ายออก นอกจากจะรู้สึกอึดอัด อ่อนแรง หงุดหงิดง่ายแล้ว มีโอกาสเป็นริดสีดวงตามมาอีก
ก่อนจะถึงขั้นนั้น ต้องปฏิวัติตัวเองอย่างจริงจัง เพื่อพิชิตอาการท้องผูกกันแล้ว !!!
1. ทานอาหารที่มีกากใยสูง
เช่น ฟักทอง ลูกพรุน ข้าวโพด มะละกอ แนะนำให้ทานใยอาหาร 20-30 กรัม/วัน
2. ออกกำลังกายเป็นประจำ
เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว และทำงานได้ดีขึ้น เมื่ออวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น ก็จะไปส่งผลให้ลำไส้ขยับเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นตามไปด้วย
3. หากรู้สึกปวดอุจจาระให้เข้าห้องน้ำทันที
อย่ากลั้นไว้ เพราะยิ่งรอนาน ยิ่งเพิ่มอาการท้องผูก
4. ฝึกเข้าห้องน้ำขับถ่ายทุกเช้าให้เป็นกิจวัตร
โดยควรนั่งถ่ายอย่างผ่อนคลายประมาณ 10 นาที ไม่ควรเร่งรีบเกินไป
5. ดื่มน้ำน้อยก็ทำให้ท้องผูกได้
เพราะฉะนั้นควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว เพราะน้ำคือส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย และยังช่วยให้กากอาหารอ่อนตัวลง
6. งดดื่มน้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีสารที่ทำให้ลำไส้บีบตัวน้อยลง แต่จะไปกระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ส่งผลให้อาการท้องผูกตามมา
7. ยาระบาย หรือ ยาถ่าย
สามารถใช้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ไม่ควรใช้บ่อย หรือเป็นระยะเวลานานๆ เพราะว่าลำไส้จะชินต่อยากระตุ้นพวกนี้ หากมีอาการท้องผูกขึ้นมาอีกก็ต้องใช้ยาแรงขึ้นเรื่อยๆ