ท้องอืดบ่อย ควรหลีกเลี่ยง และงดอาหารเหล่านี้

อาหารไม่ย่อย, กระเพาะอักเสบ ,ลำไส้อักเสบเรื้อรัง ,ท้องอืด, goodbody4u, นิชาภา


>> ท้องอืดบ่อย ควรหลีกเลี่ยง และงดอาหารเหล่านี้
.
.
อาการท้องอืด ใครเป็นแล้วก็จะรู้ว่ามันอึดอัดขนาดไหน ซึ่งเป็นเพราะมีลมอยู่ในช่องท้อง ส่วนใหญ่อาการท้องอืดนี้มักเกิดจากการกินมากเกินไปจนอิ่มเกิน แต่ในความเป็นจริงแล้วอาการท้องอืดก็อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องกินเยอะ แต่เกิดจากอาหารที่กินเข้าไปนี่เอง อาการท้องอืดเกิดได้จากการกินอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ซึ่งจะมีการดูดซึมในลำไส้น้อย และมักเต็มไปด้วยน้ำตาลธรรมชาติสูง


อาหารในกลุ่มที่ว่านี้ จะถูกดูดซึมในลำไส้เล็กได้เพียงเล็กน้อย หรือบางครั้งก็ย่อยได้ไม่หมด และจากนั้นมันก็เกิดการหมักโดยเชื้อจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร จนทำให้เกิดแก๊สขึ้นในลำไส้ใหญ่ และส่งผลให้รู้สึกท้องอืดได้นั่นเอง สำหรับวิธีบรรเทาอาการท้องอืด แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ เพื่อช่วยขับแก๊ส แต่หากมีอาการแน่นท้องอยู่บ่อยๆ ก็อาจต้องเลี่ยงอาหารบางชนิดที่ก่อให้เกิดอาการไม่สบายดังต่อไปนี้


1. ถั่ว
จัดเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยให้เป็นน้ำตาลได้ยาก คือเป็นเส้นใยอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้ตามธรรมชาติ ไม่สามารถถูกดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก จึงทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ ซึ่งมักพบในประเภทถั่วเปลือกแข็งทั้งหลาย ดังนั้นหากจะรับประทานถั่วให้มีความสุขและท้องไม่อืด จึงควรนำถั่วเปลือกแข็งแช่น้ำค้างคืน ทิ้งไว้ ซึ่งน้ำจะช่วยให้ถั่วอ่อนนิ่มและยับยั้งคาร์โบไฮเดรตได้ จึงช่วยทำให้ลดอาการท้องอืดที่เกิดขึ้นได้


2. โยเกิร์ต
โยเกิร์ตมีเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกาย แต่บางชนิดก็อาจก่อให้เกิดผลเสียได้ เพราะโยเกิร์ตคือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ได้จากการหมัก จึงอุดมด้วยน้ำตาลแล็กโทส หรือน้ำตาลที่พบในน้ำนมอยู่มากมาย จึงอาจทำให้เกิดการหมักอยู่ในลำไส้ และกลายเป็นฟองแก๊สได้ เมื่อทานเข้าไปจึงอาจรู้สึกเหมือนมีลมและปั่นป่วนท้อง ซึ่งหากไม่อยากให้เกิดอาการนี้ก็ควรกินกรีกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ซึ่งมีน้ำตาลเพียง 12 กรัมและให้โปรตีนสูง ส่วนโยเกิร์ตที่ปราศจากไขมันหรือแบบไขมันต่ำจะยิ่งทำให้เกิดแก๊สในท้องมากยิ่งขึ้น


3. หอมหัวใหญ่
ในหัวหอมใหญ่จะมี ฟรุกแทน เป็นคาร์โบไฮเดรตที่เป็นปัญหาต่อช่องท้อง เนื่องจากพืชผักตระกูลหอม ไม่ว่าจะเป็น หัวหอมแดง หัวหอมใหญ่ หรือต้นหอม มักดูดซึมในลำไส้ได้น้อย และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำในลำไส้ อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดแก๊สและท้องอืดตามมา


4. ผักตระกูลกะหล่ำ
ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี บรอกโคลี หรือกะหล่ำดอก ล้วนมีคาร์โบไฮเดรตที่เรียกว่าแรฟฟิโนส ประกอบด้วยน้ำตาล 3 ชนิดคือ ฟรักโทส กลูโคส และกาแลกโทส ซึ่งร่างกายจะไม่สามารถย่อยในระบบทางเดินอาหารได้ จนกว่าผักเหล่านี้จะถูกลำเลียงไปยังลำไส้ใหญ่ ซึ่งจะถูกย่อย แต่กว่าจะย่อยได้หมด กากอาหารจากผักนั้นก็จะเกิดการหมักหมม จนกลายเป็นแก๊ส ซึ่งหากไม่อยากท้องอืดก็ควรนำไปทำให้สุกก่อนกิน


5. แตงโม
ไม่น่าเชื่อผลไม้อย่างแตงโมจะทำให้ท้องอืดได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะแตงโมจะอุดมไปด้วยน้ำตาลฟรักโทสในระดับที่สูงมาก ซึ่งในผู้ที่รับประทาน ประมาณ 30-40% ของคนส่วนใหญ่ จะไม่สามารถดูดซึมฟรักโทสได้อย่างเต็มที่ จึงนำไปสู่อาการท้องอืด หรือมีอาการท้องเสียร่วมด้วย


6. สารให้ความหวานสังเคราะห์
สำหรับสารให้ความหวานสังเคราะห์อย่างซอร์บิทอล และไซลิทอลถือว่าเป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ ส่วนใหญ่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในหมากฝรั่ง ซึ่งน้ำตาลเหล่านี้จะดูดซึมในลำไส้เล็กได้ค่อนข้างช้า จึงอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ท้องอืด แน่นท้อง และอาจท้องเสียตามมา


7. ธัญพืช
ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ หรือ ข้าวไรย์ ต่างก็มีส่วนประกอบของฟรุกแทน ที่ไม่สามารถย่อยได้เองตามธรรมชาติ เส้นใยจากพืชที่ไม่ละลายแบบนี้ก็จะถูกหมักโดยเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ นำไปสู่การเกิดแก๊สเป็นจำนวนมากได้อยู่ดี ดังนั้นในการกินธัญพืชแบบนี้ก็ควรสังเกตตัวเองให้ดี และอย่ากินเป็นจำนวนมาก
.
.
#ท้องอืดบ่อยควรหลีกเลี่ยงและงดอาหารเหล่านี้
#สุขภาพดีทำอะไรก็ดี
#สุขภาพแย่ทำอะไรก็แย่
#goodbody4uส่งมอบสุขภาพดีให้คุณถึงบ้าน
#goodbody4u